神帅Dome结婚啦!新婚当日为妻子下厨
01 2024-03-19
在泰国,炎热的夏季除了要当心难耐的酷暑,还存在着一些其他的健康危机,有一些夏季常见的疾病也需要我们特别当心,接下来就让我们一起了解一下,泰国夏季有哪些高发疾病?
เป็นภาวะที่เกิดจากร่างกายมีความร้อนสูงเกินไป จนทําให้ความร้อนในร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส อาจทำให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะสำคัญ เช่น สมอง หัวใจ ปอด ไต และกล้ามเนื้อได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องทันท่วงที จะมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายได้ บางรายถึงขั้นพิเสียชีวิตได้
คนที่ร่างกายแข็งแรงแต่ต้องอยู่กลางแจ้งนานมีโอกาสเกิดฮีทสโตรกได้เช่นกัน จึงควรเลี่ยงการสวมชุดที่มีสีเข้ม เนื่องจากจะดูดซับความร้อนได้ดี ดื่มน้ำ สลับเข้าพักในที่ร่มเป็นระยะ เช่น ทุก 30 นาที หรือทุกชั่วโมง
โรคลมแดด อาการสำคัญ ได้แก่ วิงเวียน อ่อนเพลีย ร่างกายมีความร้อนเพิ่มขึ้น เหงื่อไม่ค่อยออก ผิวร้อน แดง แห้ง หากเริ่มมีอาการ ให้รีบเข้าที่ร่มหรือห้องที่มีความเย็น และดื่มน้ำมาก ๆ
วิธีป้องกัน และสิ่งที่ควรปฏิบัติ มีดังนี้
หน้าร้อน แดดจ้าให้เกิดผิวไหม้จากแสงแดด ผิวคล่ำ และอากาศทีร้อนอบอ้าวยังเป็นปัจจัยเสริมให้เกิดโรคผิวหนังชนิดต่าง ๆ ได้ โรคผิวหนังที่พบบ่อยในหน้าร้อน ได้แก่
เกิดจากเหงื่อที่ออกมากในช่วงที่อากาศร้อนร่วมกับใส่เสื้อผ้าที่ไม่ระบายอากาศ ทำให้เกิดผื่นสีแดง ที่มีอาการคัน อาการแสบได้ ผดร้อนเกิดจากการอุดตันของการหลั่งเหงื่อ โดยจะเกิดเป็นผืนตุ่มเล็ก ๆ มีสีแดง หรือเป็นตุ่มน้ำใสเม็ด ๆ ที่บริเวณหน้าอก คอ และหลัง
เกิดจากแสงแดดไปกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานมากขึ้น ทำให้โรคในกลุ่ม ฝ้า กระ มีสีที่เข้มขึ้นได้ในช่วงหน้าร้อน ผู้ที่ต้องทํางานกลางแจ้งเป็นประจําก็จะเริ่มมีฝ้าและกระแดดเกิดขึ้นที่ใบหน้า นอกจากนี้ การโดนแดดสะสมเป็นเวลานาน ๆ โดยไม่มีการป้องกันจะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิด มะเร็งผิวหนัง ได้
อากาศร้อน ส่งผลให้เหงื่อออกเยอะทำให้ผิวหนังมีความอับชื้น เกิดการติดเชื้อราซ้ำซ้อน ทำให้เกิดโรคผิวหนังตามมา บริเวณที่พบบ่อย เช่น บริเวณรักแร้ ซอกพับ หรือง่ามมือง่ามเท้า ซึ่งพบได้บ่อยและเกิดได้ในทุกช่วงวัย
วิธีป้องกัน และสิ่งที่ควรปฏิบัติ มีดังนี้
ในช่วงนี้อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เชื้อโรคหลายชนิดเติบโตได้ดี อาจทำให้อาหารบูดเสียได้ง่ายกว่าปกติ เสี่ยงที่จะเจ็บป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษ
โรคอาหารเป็นพิษ เกิดจากการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่มีเชื้อโรคปนเปื้อน ที่มากับอาหารที่ไม่สะอาด อาหารที่ทําไว้ล่วงหน้านาน ๆ และไม่ได้รับการอุ่นร้อนก่อนรับประทาน
อาการที่สําคัญของ โรคอาหารเป็นพิษ ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระเหลวหรือเป็นน้ำ ลำไส้อักเสบ และอาจมีไข้ ปวดศีรษะร่วมด้วย ในรายที่มีอาการถ่ายอุจจาระมาก ผู้ป่วยอาจมีภาวะช็อกหมดสติได้
การดูแลเบื้องต้น ควรให้จิบผงละลายเกลือแร่ บ่อย ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ หากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
วิธีป้องกัน และสิ่งที่ควรปฏิบัติ มีดังนี้
โรคอุจจาระร่วง เกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส พยาธิ สารพิษและสารเคมี พบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี ขณะที่สภาพอากาศร้อน เป็นปัจจัยเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อก่อโรคส่งผลให้อาหารที่เตรียมไว้ปูดง่าย เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคอุจจาระร่วงได้เช่นกัน
อาการสําคัญ คือ มีอาการถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำ อย่างน้อย 3 ครั้ง หรือถ่ายปนมูกปนเลือดอย่างน้อย 1 ครั้ง ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง อาจอาเจียนหรือมีภาวะขาดน้ำร่วมด้วย ส่วนใหญ่มักหายได้เอง แต่หากมีอาการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ไปพร้อมกับการถ่ายมาก อาจทำให้ช็อก หมดสติ และภาวะขาดสารอาหารในช่วงหลัง ส่งผลให้ผู้ป่วยโดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ เกิดโรคแทรกซ้อนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
วิธีป้องกัน และสิ่งที่ควรปฏิบัติ มีดังนี้
ไทฟอยด์ หรือ ไข้รากสาดน้อย พบได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน เกิดจากการรับประทานอาหาร และดื่มน้ำที่ปนเปื้อน เชื้อไทฟอยด์จากอุจจาระหรือปัสสาวะของผู้ป่วย หรือผู้ที่เป็นพาหะโรคไทฟอยด์
อาการสําคัญ คือ มีไข้สูงลอยมากกว่า 1 สัปดาห์ โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนอาจมีไข้สูงได้ถึง 40.5 องศาเซลเซียส และมีอาการร่วม คือ ปวดศีรษะ บางรายอาจมีอาการท้องอืดหรือท้องเสีย หรือมีอาการผื่นขึ้นตามหน้าอกและลำตัว หากไม่ได้รับการรักษาอาจมีอาการเพ้อเพราะพิษไข้ หรืออ่อนเพลีย รวมถึงอาจมีความรุนแรง ทำให้เกิดอาการโคมาได้
วิธีป้องกัน และสิ่งที่ควรปฏิบัติ มีดังนี้
โรคติดต่อที่เกิดขึ้นจากเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุเกิดจากการกินอาหารหรือน้ำที่มีเชื้ออหิวาตกโรคปะปนอยู่ เช่น อาหารที่มีแมลงวันตอม อาหารทะเล อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ รับประทาน หรือดื่มน้ำที่มีการใช้ภาชนะหรือมือไม่สะอาด
อาการที่สําคัญ คือ ถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำซาวข้าวคราวละมาก ๆ โดยไม่มีอาการปวดท้อง บางครั้งมีคลื่นไส้ อาเจียน สูญเสียน้ำอย่างรวดเร็วจนเกิดภาวะเป็นกรดในเลือด และการไหลเวียนโลหิตล้มเหลว
วิธีป้องกัน และสิ่งที่ควรปฏิบัติ มีดังนี้
โรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคกลัวน้ำ เกิดจากเชื้อไวรัสเรบีส์ พบในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด เช่น สุนัข แมว โค กระบือ หนู กระรอก กระต่าย ลิง ค้างคาว ในประเทศไทยมักพบในสุนัข แมว และพบบ้างในโคกระบือ โดยเชื้อจะเข้าทางบาดแผลที่ถูกกัด ข่วน หรือเลียบริเวณที่มีบาดแผล รอยถลอก หรือรอยขีดข่วนบาดแผล หรือเลียถูกบริเวณเยื่อบุตา หรือปาก
วิธีป้องกัน และสิ่งที่ควรปฏิบัติ มีดังนี้
除了高温,大家还要小心这些疾病的发生哦!
声明:本文由泰国旅游信息网编译整理,素材来自thaipbs,未经允许不得转载。如有不妥,敬请指正。